ปิด

PoveShop

0

กรอกข้อมูลสมาชิก

ข้อตกลงในการใช้การตลาดและการโฆษณา

- วัตถุประสงค์: การตลาด เช่น กิจกรรม นิทรรศการพิเศษ และข้อมูลผลิตภัณฑ์ใหม่
- รายการ: หมายเลขโทรศัพท์มือถือ, อีเมล
- ระยะเวลาการเก็บรักษา: ลบทันทีเมื่อออกจากสมาชิก
※ มีสิทธิที่จะไม่เห็นด้วยกับการรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลและอาจจำกัดการใช้บริการบางอย่างเมื่อปฏิเสธการยินยอม
  • โทรศัพท์

  • - -
  • รหัสผ่าน

ข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้บริการชอปปิ้งมอลล์

ข้อกำหนดและเงื่อนไขมาตรฐานการค้าอิเล็กทรอนิกส์ (Internet Cyber Mall)

ข้อกำหนดและเงื่อนไขมาตรฐาน ฉบับที่ 10023
(ปรับปรุงแก้ไขเมื่อ 2015.06.26)

ข้อ 1 (วัตถุประสงค์) ข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้อ้างถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “บริการ”) ที่ให้บริการโดย www.poveshop.com (ต่อไปนี้จะเรียกว่า “ห้างสรรพสินค้า”) ดำเนินการโดย Poveshop Co., Ltd.
(ผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซ) มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของไซเบอร์มอลล์รวมถึง
ผู้ใช้บริการเมื่อใช้บริการ

⋇「การสื่อสารด้วย PC ข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ใช้กับการค้าทางอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้ระบบไร้สาย ฯลฯ เว้นแต่จะขัดต่อลักษณะดังกล่าว」

ข้อ 2 (คำจำกัดความ)

① “ห้างสรรพสินค้า” ธุรกิจเสมือนจริงที่จัดตั้งขึ้นโดย Poveshop Co., Ltd. เพื่อจัดหาสินค้าหรือบริการ
(ต่อไปนี้จะเรียกว่า “สินค้า ฯลฯ”) แก่ผู้ใช้ผ่านการใช้คอมพิวเตอร์และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เพื่อการค้าสินค้า ฯลฯ นอกจากนี้ยังใช้เพื่อหมายถึงผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจไซเบอร์มอลล์

② “ผู้ใช้” หมายถึงสมาชิกและผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกที่เข้าถึง “ห้างสรรพสินค้า” และรับบริการจาก
“ห้างสรรพสินค้า” ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้

③ ‘สมาชิก’ หมายถึงบุคคลที่ได้ลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกของ “ห้างสรรพสินค้า” และสามารถใช้บริการของ
“ห้างสรรพสินค้า” ต่อไปนี่หมายถึงบุคคลที่สามารถใช้งานได้

④ 'ไม่ใช่สมาชิก' หมายถึงบุคคลที่ใช้บริการของ "ห้างสรรพสินค้า" โดยไม่ได้ลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิก


ข้อ 3 (เงื่อนไขข้อกำหนดและคำอธิบายฉบับแก้ไข)

① “ห้างสรรพสินค้า” กล่าวถึงเนื้อหาข้อกำหนดและเงื่อนไขดังนี้ ชื่อบริษัทและชื่อตัวแทน, ที่อยู่ที่ตั้งธุรกิจ
(รวมถึงที่อยู่ของสถานที่ที่สามารถรับคำร้องเรียนของผู้บริโภค), หมายเลขโทรศัพท์, หมายเลขโทรสาร,
ที่อยู่อีเมลธุรกิจ, เลขทะเบียนธุรกิจและการสื่อสาร, เลขที่ผู้ประกอบการ, ผู้จัดการข้อมูลส่วนบุคคล ฯลฯ
จะถูกโพสต์บนหน้าจอบริการเริ่มต้น (ด้านหน้า) ของ 00 cyber mall เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดูได้ง่าย
อย่างไรก็ตามผู้ใช้สามารถดูเนื้อหาของข้อกำหนดและเงื่อนไขได้ผ่านทางหน้าจออิเล็กทรอนิกส์

② “ห้างสรรพสินค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการยกเลิกการสมัครสมาชิกและความรับผิดชอบในการจัดส่งตามเนื้อหาที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขข้อกำหนด เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจข้อมูลสำคัญ เช่น เงื่อนไขการคืนเงิน จะต้องมีข้อมูลหน้าจอการเชื่อมต่อสำหรับดำเนินการหรือหน้าจอป๊อปอัปแยกต่างหากเพื่อใช้ในการรับการยืนยันจากผู้ใช้









③ “ห้างสรรพสินค้า” หมายถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ
「พระราชบัญญัติว่าด้วยข้อกำหนดและเงื่อนไข」, 「พระราชบัญญัติเอกสารการให้คำปรึกษาล่วงหน้าและขอบเขตการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์」, 「พระราชบัญญัติธุรกรรมทางการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์」, 「พระราชบัญญัติลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์」, 「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศ การสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล ฯลฯ 」,
「พระราชบัญญัติการค้าแบบ door-to-door ฯลฯ 」 ข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้อาจมีการแก้ไขในขอบเขตที่ไม่ละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยขอบเขตผู้บริโภค

④ เมื่อ “ห้างสรรพสินค้า” ทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อกำหนดและเงื่อนไข ลงวันที่ยื่นคำขอและเหตุผลในการแก้ไขเสร็จสิ้น ข้อมูลดังกล่าวถูกระบุและประกาศบนหน้าจอเริ่มต้นของห้างสรรพสินค้า พร้อมกับรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขในปัจจุบัน ตั้งแต่ 7 วันล่วงหน้าก่อนยื่นคำขอจนถึงวันยื่นคำขอ
อย่างไรก็ตาม หากการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขมีผลเสียต่อผู้ใช้ จะมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าโดยมีระยะเวลาผ่อนผันอย่างน้อย 30 วัน ในกรณีนี้ “ห้างสรรพสินค้า” จะทำเปรียบเทียบแสดงเนื้อหาก่อนและหลังการแก้ไขอย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่าย

⑤ หาก "ห้างสรรพสินค้า" ทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อกำหนดและเงื่อนไข ข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าวที่จะใช้กับสัญญาที่สรุปหลังจากวันที่ยื่นคำขอเท่านั้น ส่วนข้อกำหนดและเงื่อนไขก่อนการเปลี่ยนแปลงแก้ไขจะยังคงใช้กับสัญญาเดิมก่อนวันดังกล่าว อย่างไรก็ตามหากผู้ใช้ทำการยืนยันต้องการทำสัญญาที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขข้อกำหนดที่ทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ส่งไปยัง "ห้างสรรพสินค้า" ภายในระยะเวลาที่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าของข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แก้ไขตามวรรค 3 และได้รับความยินยอมจาก "ห้างสรรพสินค้า" จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แก้ไข

⑥ เกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ได้ระบุไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ และการตีความข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ ว่าด้วยกฎหมายการคุ้มครองผู้บริโภคในการค้าอิเล็กทรอนิกส์, พระราชบัญญัติว่าด้วยการควบคุมข้อกำหนดและเงื่อนไข, จะปฏิบัติตามแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือแนวปฏิบัติทางการค้าในอีคอมเมิร์ซ
ที่กำหนดโดยคณะกรรมาธิการการค้าที่เป็นธรรม


ข้อ 4 (การจัดหาและการเปลี่ยนแปลงบริการ)

① “ห้างสรรพสินค้า” มีขอบเขตทำหน้าที่ต่อไปนี้

การจัดหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการและการจัดทำสัญญาซื้อขาย
การส่งมอบสินค้าหรือบริการที่ได้สรุปสัญญาการซื้อแล้ว
งานอื่นๆ ที่กำหนดโดย “ห้างสรรพสินค้า”

② “ห้างสรรพสินค้า” อาจเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของสินค้าหรือบริการ ที่อยู่ภายใต้สัญญาในอนาคต
ในกรณีที่สินค้าทำการขายหมด มีการเปลี่ยนแปลงด้านการบริการหรือข้อกำหนดทางเทคนิค กรณีนี้จะมีการระบุเนื้อหารายละเอียดของสินค้าหรือบริการที่เปลี่ยนแปลงและวันที่เปลี่ยนแปลง ณ ปัจจุบันจะถูกอัพเดทประกาศทันทีที่โพสต์

③ หาก "ห้างสรรพสินค้า" มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดสินค้าและบริการที่ทำสัญญากับผู้ใช้ สาเหตุอันเนื่องมาจากเช่น สินค้าหมดหรือมีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดทางเทคนิค คำชี้แจงเหตุผลดังกล่างจะถูกแจ้งไปยังผู้ใช้ทันทีตามที่อยู่ที่สามารถแจ้งได้

④ ในกรณีอ้างอิงจากหัวข้อก่อนหน้านี้ “ห้างสรรพสินค้า” จะชดเชยความเสียหายที่ผู้ใช้ได้รับ
อย่างไรก็ตามกรณีนี้จะมีผลก็ต่อเมื่อ “ห้างสรรพสินค้า” ตรวจสอบพิสูจน์ได้ว่าไม่มีเจตนาหรือประมาทเลินเล่อ


ข้อ 5 (การระงับการให้บริการ)

① “ห้างสรรพสินค้า” มีความเกี่ยวพันกับระบบการบำรุงรักษาและการตรวจสอบอุปกรณ์ข้อมูลสารสนเทศและ
การสื่อสาร เช่น คอมพิวเตอร์, การซ่อมบำรุงหรือการชำรุด ในกรณีนี้ด้วยเหตุผลต่างๆ อาทิเช่น การขาดการติดต่อในการสื่อสาร การให้บริการอาจถูกระงับชั่วคราว

② “ห้างสรรพสินค้า” จะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยผู้ใช้หรือบุคคลที่สาม เหตุอันเนื่องมาจากการถูกระงับการให้บริการชั่วคราวด้วยเหตุผลที่กำหนดไว้ในวรรค 1 อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ใช้ไม่ได้หาก “ห้างสรรพสินค้า” พิสูจน์ได้ว่าผู้ใช้งานมีเจตนาหรือประมาทเลินเล่อ

③ การเปลี่ยนแปลงประเภทธุรกิจ, การเลิกกิจการ หรือหากไม่สามารถให้บริการได้เนื่องจากเหตุผลต่างๆ เช่น
การปิดปรับปรุงระหว่างบริษัท “ห้างสรรพสินค้า” จะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบตามข้อที่กำหนดไว้ในมาตรา 8 และชดเชย
ผู้บริโภคตามเงื่อนไขที่ “ห้างสรรพสินค้า” นำเสนอในตอนแรก อย่างไรก็ตาม หาก “ห้างสรรพสินค้า” ไม่แจ้งมาตรฐานการชดเชยฯลฯ ไมล์สะสมหรือคะแนนสะสมของผู้ใช้จะถูกชำระให้กับผู้ใช้ในรูปแบบหรือเงินสดเทียบเท่ากับมูลค่าสกุลเงินที่ใช้ใน “ห้างสรรพสินค้า”


ข้อ 6 (การลงทะเบียนสมัครสมาชิก)

① ผู้ใช้สมัครสมาชิกโดยกรอกข้อมูลลงทะเบียนตามแบบฟอร์มลงทะเบียนที่กำหนดไว้โดย “ห้างสรรพสินค้า”
จากนั้นแสดงเจตนายินยอมที่จะยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้

② “ห้างสรรพสินค้า” ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนสมัครเป็นสมาชิกตามคำอธิบายเว้นวรรคที่ 1 เพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก
เว้นแต่จะเข้าข่ายรายการใดรายการหนึ่งต่อไปนี้

1. หากผู้สมัครสูญเสียการเป็นสมาชิกก่อนหน้านี้ตามมาตรา 7 วรรค 3 ของข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้
อย่างไรก็ตามมีข้อยกเว้น ในกรณีที่ 3 ปีผ่านไปนับตั้งแต่สูญเสียการเป็นสมาชิกตามมาตรา 7 วรรค 3 และสมาชิกได้รับการอนุมัติจาก “ห้างสรรพสินค้า” ให้ลงทะเบียนใหม่ได้ในฐานะสมาชิก
2. หากมีข้อมูลอันเป็นเท็จ, การละเว้น หรือข้อมูลการลงทะเบียนผิดพลาด
3. หากตรวจสอบคุณสมบัติแล้วพบว่าการลงทะเบียนเป็นสมาชิก อาจเกิดผลกระทบต่อผู้ใช้รายอื่นหรือเป็นอุปสรรคต่อเทคโนโลยีของ “ห้างสรรพสินค้า” อย่างมาก

③ การจัดทำสัญญาสมาชิกจะเกิดขึ้นได้เมื่อสมาชิกได้รับการอนุมัติจาก “ห้างสรรพสินค้า”

④ หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ลงทะเบียนเมื่อสมัครสมาชิก จะต้องทำการแจ้งให้ “ห้างสรรพสินค้า” ทราบถึง
การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลสมาชิก


ข้อ 7 (การถอนตัวจากการเป็นสมาชิก และการขาดคุณสมบัติ ฯลฯ)








① สมาชิกสามารถขอถอนตัวจาก “ห้างสรรพสินค้า” ได้ตลอดเวลา และ “ห้างสรรพสินค้า” จะดำเนินการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกทันที

② หากสมาชิกตกอยู่ภายใต้สาเหตุใดๆ ต่อไปนี้ “ห้างสรรพสินค้า” อาจเพิกถอนหรือระงับการเป็นสมาชิก

1. หากลงทะเบียนข้อมูลอันเป็นเท็จเมื่อสมัครสมาชิก
2. ชำระค่าสินค้าที่ซื้อโดยใช้ “ห้างสรรพสินค้า” ในกรณีที่สมาชิกมีค่าใช้จ่ายหรือหนี้อื่นๆ ที่เกิดขึ้นโดยมีความเกี่ยวข้องกับการใช้ “ห้างสรรพสินค้า” และไม่ได้รับการชำระภายในวันที่ครบกำหนด
3. ในกรณีระเมิดหรือคุกคามคำสั่งหรือระเบียบของ “ห้างสรรพสินค้า” เช่น การแทรกแซงการใช้งาน
“ห้างสรรพสินค้า” บุคคลอื่น หรือการขโมยข้อมูล
4. เมื่อใช้ “ห้างสรรพสินค้า” กระทำการต้องห้ามตามกฎหมาย หรือข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านั้นขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน

③ “ห้างสรรพสินค้า” จำกัดการเป็นสมาชิก หลังจากการระงับหากยังมีพฤติกรรมเดิมซ้ำมากกว่าสองครั้ง หรือเหตุผลไม่ได้รับการแก้ไขภายใน 30 วัน “ห้างสรรพสินค้า” อาจทำการเพิกถอนการเป็นสมาชิก

④ หาก “ห้างสรรพสินค้า” เพิกถอนการเป็นสมาชิก การสมัครสมาชิกจะถูกยกเลิก ในกรณีนี้สมาชิกจะได้รับแจ้งเรื่องและสามารถนำข้อมูลหลักฐานชี้แจงได้ภายในระยะเวลาอย่างน้อย 30 วันก่อนเพิกถอนการเป็นสมาชิก


ข้อ 8 (การแจ้งเตือนสมาชิก)

① “ห้างสรรพสินค้า” จะส่งแจ้งเตือนให้สมาชิกทราบ ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้ที่อยู่อีเมลที่สมาชิกกำหนดไว้ล่วงหน้ากับทาง "ห้างสรรพสินค้า"

② ในกรณีที่มีการแจ้งเตือนไปยังสมาชิกที่ไม่สามารถระบุตัวตนหรือจำนวนบุคคล "ห้างสรรพสินค้า" อาจทำการแทนที่ประกาศแต่ละรายการโดยโพสต์ไว้บนกระดานข่าวของ "ห้างสรรพสินค้า" เป็นระยะเวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์ขึ้นไป อย่างไรก็ตาม จะมีการแจ้งเตือนให้ทราบเป็นรายบุคคล หากมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่มีผลกระทบสำคัญต่อการทำธุรกรรมของสมาชิก


ข้อ 9 (การสั่งซื้อและการให้ความยินยอมในการให้ข้อมูลส่วนบุคคล ฯลฯ )

① ผู้ใช้ “ห้างสรรพสินค้า” สั่งซื้อสินค้าใน “ห้างสรรพสินค้า” โดยใช้วิธีดังต่อไปนี้หรือคล้ายกันและ “ห้างสรรพสินค้า” จะต้องให้ข้อมูลต่อไปนี้ในลักษณะที่เข้าใจง่ายเมื่อผู้ใช้ทำการสั่งซื้อสินค้า

1. การค้นหาและเลือกสินค้า ฯลฯ
2. ระบุชื่อผู้รับ, ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล (หรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ) เป็นต้น
3. การยืนยันเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดและเงื่อนไข, บริการที่อาจถูกจำกัดสิทธิ์หรือถูกถอนจากการเป็นสมาชิก, ภาระค่าใช้จ่าย เช่น ค่าธรรมเนียมการจัดส่ง, ค่าธรรมเนียมการติดตั้ง
4. การบ่งชี้ข้อตกลงต่อข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ และการยืนยันหรือการปฏิเสธเรื่องในวรรค 3 ข้างต้น
(เช่น การคลิกเมาส์)
5. การยืนยันสั่งซื้อสินค้า ฯลฯ หรือยินยอมให้ทำการยืนยันโดย “ห้างสรรพสินค้า”
6. การเลือกวิธีการชำระเงิน




② หาก “ห้างสรรพสินค้า” จำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ซื้อแก่บุคคลที่สาม 1) บุคคลที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคล,
2) วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล, 3) เนื้อหาข้อมูลส่วนบุคคลที่ให้ไว้, 4) ผู้ซื้อจะต้องทราบถึงการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงระยะเวลาการใช้งานของบุคคลที่สามและต้องได้รับความยินยอมในการใช้ข้อมูล
(เช่นเดียวกันนี้ แม้ว่ารายละเอียดที่ได้รับความยินยอมจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ตาม)

③ เมื่อ “ห้างสรรพสินค้า” มอบหมายให้บุคคลที่สามมีหน้าที่จัดการข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ซื้อ 1) บุคคลที่ได้รับมอบหมายให้จัดการข้อมูลส่วนบุคคล, 2) จะต้องแจ้งให้ผู้ซื้อทราบถึงรายละเอียดของงานที่ได้รับมอบหมายให้จัดการข้อมูลส่วนบุคคล และต้องได้รับความยินยอม (เช่นเดียวกันนี้ แม้ว่ารายละเอียดที่ได้รับความยินยอมจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ตาม) อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาการให้บริการหรือปรับปรุงส่งเสริมเกี่ยวกับความสะดวกของผู้ซื้อ 「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้เครือข่ายสารสนเทศและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」
ไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการแจ้งและยินยอม แต่จะทำโดยการแจ้งผ่านนโยบายการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะที่ระบุไว้ในขั้นต้น


ข้อ 10 (การรับคำสัญญาสั่งซื้อ)

① “ห้างสรรพสินค้า” อาจไม่ยอมรับคำขอสั่งซื้อตามที่ระบุไว้ในข้อ 9 หากมีข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ อย่างไรก็ตาม ในการทำสัญญาสั่งซื้อกับผู้เยาว์ จะต้องทำการแจ้งผู้เยาว์ว่า ตัวแทนทางกฎหมายสามารถยกเลิกสัญญาได้หากไม่ได้รับความยินยอมจากตัวแทนทางกฎหมาย

1. หากมีข้อมูลเท็จ, ละเว้น หรือข้อมูลผิดพลาดในรายละเอียดการสมัคร
2. เมื่อผู้เยาว์ซื้อสินค้าหรือบริการต้องห้ามตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเยาวชน เช่น บุหรี่หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3. หากมีการตัดสินว่าการอนุมัติคำขอซื้ออื่น ๆ อาจจะเป็นอุปสรรคต่อเทคโนโลยี "ห้างสรรพสินค้า" อย่างมาก

② สัญญาจะถือว่าถูกจัดทำขึ้นเมื่อผ่านการอนุมัติของ "ห้างสรรพสินค้า" ถึงผู้ใช้ในรูปแบบของการแจ้งเตือนการยืนยันรับภายใต้มาตรา 12 วรรค 1

③ การยืนยันการอนุมัติของ “ห้างสรรพสินค้า” รวมถึงการยืนยันแอปพลิเคชันการสั่งซื้อของผู้ใช้และการขายเป็นไปได้หรือไม่ จำเป็นต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขหรือการยกเลิกคำขอสั่งซื้อ


ข้อ 11 (วิธีการชำระเงิน) การชำระค่าสินค้าหรือบริการที่สั่งซื้อจาก "ห้างสรรพสินค้า" สามารถทำได้โดยใช้วิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้ อย่างไรก็ตาม “ห้างสรรพสินค้า” ไม่สามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมใดๆ ก็ตามจากราคาสินค้า ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการชำระเงินของผู้ใช้

1. โอนเงินผ่านบัญชีต่างๆ เช่น โมบายแบงก์กิ้ง, อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง และอีเมลแบงก์กิ้ง
2. การชำระเงินด้วยบัตรต่างๆ เช่น บัตรเติมเงิน, บัตรเดบิต, บัตรเครดิต เป็นต้น
3. โอนเงินผ่านธนาคารออนไลน์
4. การชำระด้วยเงินอิเล็กทรอนิกส์
5. ชำระเงินปลายทางเมื่อได้รับสินค้า
6. การชำระเงินตามคะแนนที่จ่ายโดย “ห้างสรรพสินค้า” เช่น ไมล์สะสม







7. การชำระเงินด้วยบัตรของขวัญที่ทำสัญญากับ “ห้างสรรพสินค้า” หรือได้รับการยอมรับจาก “ห้างสรรพสินค้า”
8. ชำระด้วยวิธีการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เป็นต้น


ข้อ 12 (การแจ้งเตือนยืนยันการรับ การเปลี่ยนแปลงและการยกเลิกคำสั่งซื้อ)

① “ห้างสรรพสินค้า” ทำการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้ให้ทราบเมื่อมีคำขอสั่งซื้อจากทางผู้ใช้

② หากมีความคลาดเคลื่อนในข้อมูลสินค้าหรือความต้องการผิดพลาด ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนยืนยันการซื้อสินค้า หลังจากได้รับแจ้งเตือนยืนยันแล้ว สามารถขอเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกคำขอสั่งซื้อได้ทันที และหากมีการร้องขอจากผู้ใช้ก่อนส่งมอบสินค้า “ห้างสรรพสินค้า” จะต้องดำเนินการตามคำขอโดยทันที
อย่างไรก็ตาม หากมีการชำระเงินแล้ว จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการยกเลิกคำสั่งซื้อฯลฯ ในข้อ 15


ข้อ 13 (การจัดหาสินค้า ฯลฯ)

① หากมีข้อยกเว้นข้อตกลงแยกต่างหากระหว่าง “ห้างสรรพสินค้า” และผู้ใช้เกี่ยวกับระยะเวลาในการจัดหาสินค้า,การผลิตแบบกำหนดเอง เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าได้ภายใน 7 วันนับจากวันที่ผู้ใช้สั่งซื้อสินค้า รวมถึงระยะเวลา
ดำเนินการด้านบรรจุภัณฑ์และมาตรการที่จำเป็นอื่นๆ อย่างไรก็ตามหาก “ห้างสรรพสินค้า” ได้รับการชำระเงินค่าสินค้าทั้งหมดหรือบางส่วนแล้ว จะดำเนินการภายใน 3 วันทำการ โดยนับจากวันที่ได้รับการชำระเงินทั้งหมดหรือบางส่วน ในขั้นตอนนี้ “ห้างสรรพสินค้า” จะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบขั้นตอนการจัดหาและความคืบหน้าของการผลิตสินค้าฯลฯ

② “ห้างสรรพสินค้า” ระบุวิธีการจัดส่ง, ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดส่งตามวิธีการ และระยะเวลาในการจัดส่งตามวิธีการสำหรับสินค้าที่ผู้ใช้สั่งซื้อ หาก “ห้างสรรพสินค้า” ส่งมอบสินค้าเกินระยะเวลาการจัดส่งที่ตกลงกันไว้
จะต้องชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้สามารถใช้ได้หาก “ห้างสรรพสินค้า” พิสูจน์
ได้ว่าไม่มีเจตนาหรือประมาทเลินเล่อ


ข้อ 14 (การคืนเงิน) หาก “ห้างสรรพสินค้า” ไม่สามารถส่งมอบหรือจัดหาสินค้าตามที่ผู้ใช้สั่งซื้อได้ สาเหตุ
อันเนื่องมาจาก เช่น สินค้าหมด ฯลฯ จะทำการแจ้งให้ผู้ใช้ทราบถึงเหตุผลโดยทันที และในกรณีที่ได้รับการชำระเงินค่าสินค้าเรียบร้อยแล้ว จะคืนเงินที่ชำระหรือดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อรับเงินคืนภายใน 3 วันทำการนับจากวันที่ได้รับการชำระเงิน


ข้อ 15 (การขอยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้า ฯลฯ )

① วันที่ผู้ใช้ที่ทำสัญญาซื้อสินค้า กับ "ห้างสรรพสินค้า" และได้รับทราบเกี่ยวกับรายละเอียดของสัญญาตาม
มาตรา 13 วรรค 2 ของ 「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」
(หากการจัดหาสินค้า มีความล่าช้ากว่าวันที่ได้รับเอกสาร กล่าวถึงวันที่ได้รับสินค้าหรือการจัดหาสินค้า ฯลฯ เริ่มขึ้น)
สามารถทำการถอนหรือขอยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าภายใน 7 วันนับจากวันที่ซื้อ อย่างไรก็ตามในเรื่องของการขอยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าตาม 「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 หากมีบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นให้นำบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติเดียวกันมาใช้บังคับ





② หลังจากผู้ใช้ได้รับสินค้า จะไม่สามารถส่งคืนหรือเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีต่อไปนี้

1. หากสินค้าเกิดการสูญหายหรือเสียหาย สาเหตุอันเนื่องมาจากผู้ใช้ (อย่างไรก็ตาม หากบรรจุภัณฑ์เสียหาย
และต้องทำการตรวจสอบสินค้า การขอยกเลิกส่งคืนสินค้าอาจถูกยกเลิก)
2. เมื่อมูลค่าของสินค้าเปลี่ยนแปลงหรือลดลงอย่างมาก เนื่องจากการใช้งานหรือการบริโภคบางส่วนโดยผู้ใช้
3. เมื่อมูลค่าของสินค้ามีความเปลี่ยนแปลงลดลงตามระยะเวลา จนยากต่อการนำไปจำหน่ายต่อได้
4. หากบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมเสียหาย หรือตรวจสอบได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ

③ ในกรณีของวรรค 2 รายการที่ 2 ถึง 4 “ห้างสรรพสินค้า”หากไม่ได้ระบุมาตรการล่วงหน้า เช่น การจัดหาผลิตภัณฑ์ทดลอง หรือการระบุข้อเท็จจริงที่ว่าไม่สามารถส่งคืนหรือแลกเปลี่ยนสินค้าไว้ล่วงหน้าในที่ที่ผู้บริโภคสามารถมองเห็นได้ง่าย การขอคืนหรือยกเลิกการสั่งซื้อสินค้าโดยผู้ใช้จะไม่ถูกจำกัด

④ แม้จะมีบทบัญญัติของวรรค 1 และ 2 หากรายละเอียดของสินค้าหรืออื่นๆ แตกต่างจากข้อมูลสินค้าหรือโฆษณาหรือนำไปใช้ในทางที่แตกต่างจากเนื้อหาของสัญญา ผู้ใช้จะต้องได้รับแจ้งข้อเท็จจริงภายใน 3 เดือนนับจากวันที่จัดหาสินค้า ฯลฯ หรือสามารถทำการขอคืนยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าได้ภายใน 30 วัน นับจากวันที่รับทราบ


ข้อ 16 (ผลกระทบจากการขอส่งคืนยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้า)

① เมื่อผู้ใช้ส่งคืนสินค้า “ห้างสรรพสินค้า” จะคืนเงินตามจำนวนยอดสินค้าที่ชำระแล้ว ภายใน 3 วันทำการ
ในกรณีนี้หาก "ห้างสรรพสินค้า" เลื่อนการคืนเงินหรือล่าช้า ดอกเบี้ยล่าช้าจะคำนวณโดยการคูณอัตราความล่าช้าที่ระบุไว้ในมาตรา 21-2 ของ 「พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคในการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์」 ชำระเป็นงวดล่าช้า

② ในการคืนเงินจำนวนข้างต้น หากผู้ใช้ชำระค่าสินค้าด้วยวิธีการชำระเงิน เช่น บัตรเครดิตหรือเงินอิเล็กทรอนิกส์
“ห้างสรรพสินค้า” จะสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจให้วิธีการระงับการเรียกเก็บเงิน หรือขอยกเลิกทันที

③ ในกรณีที่ยกเลิกคำสั่งซื้อหรือส่งคืนสินค้า ผู้ใช้จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการส่งคืนสินค้าไปยัง
“ห้างสรรพสินค้า” และจะไม่มีการเรียกเก็บค่าปรับหรือค่าตอบแทนแก่ผู้ใช้ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น การยกเลิกคำสั่งซื้อหรือขอส่งคืนสินค้า อย่างไรก็ตามหากข้อมูลของสินค้า แตกต่างจากเนื้อหาของการแสดงหรือโฆษณา หรือมีการดำเนินการตามสัญญาแตกต่างออกไปทำให้การยกเลิกคำสั่งซื้อส่งคืนสินค้าถูกยกเลิก "ห้างสรรพสินค้า" จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆที่จำเป็นในการส่งคืนสินค้า

④ หากผู้ใช้เป็นผู้ชำระค่าขนส่งเมื่อได้รับสินค้า “ห้างสรรพสินค้า” จะต้องระบุอย่างชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย เมื่อเกิดกรณียกเลิกคำสั่งซื้อหรือส่งคืนสินค้าเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจได้ง่าย


ข้อ 17 (การปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)











① “ห้างสรรพสินค้า” จะเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลเบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับการใช้บริการ

② “ห้างสรรพสินค้า” จะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลล่วงหน้าที่จำเป็นในข้อตกลงสัญญาซื้อเมื่อลงทะเบียนเป็นสมาชิก อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถใช้ได้ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนก่อนทำสัญญาซื้อเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดภาระผูกพัน ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

③ เมื่อ “ห้างสรรพสินค้า” รวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ จะมีการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทราบถึงวัตถุประสงค์และได้รับความยินยอมจะผู้ใช้

④ “ห้างสรรพสินค้า” ไม่สามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่รวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากข้อกำหนด และเมื่อมีวัตถุประสงค์การใช้งานใหม่เกิดขึ้น หรือมีการส่งมอบข้อมูลให้กับบุคคลที่สาม วัตถุประสงค์ดังกล่าวจะถูกแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้และได้รับความยินยอมก่อนนำไปใช้ทุกครั้ง อาทิเช่น วัตถุประสงค์/ขั้นตอนการจัดเตรียม
อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นในกรณีที่กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

⑤ ในกรณีที่ "ห้างสรรพสินค้า" ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้ตามวรรค 2 และ 3 จะต้องระบุตัวตนของผู้รับผิดชอบในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล (สังกัด, ชื่อและหมายเลขโทรศัพท์, ข้อมูลติดต่ออื่น ๆ ) วัตถุประสงค์ในการรวบรวมข้อมูลและการใช้งาน ส่วนของบุคคลที่สามที่กำหนดไว้ในมาตรา 22 (2) ของ 「พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้
เครือข่ายข้อมูลและการสื่อสารและการคุ้มครองข้อมูล」 รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลแก่บุคคลที่สาม
(ชื่อผู้รับข้อมูล, วัตถุประสงค์ และเนื้อหาของข้อมูลที่จะส่งมอบ) จะต้องมีการระบุหรือแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ผู้ใช้สามารถเพิกถอนความยินยอมนี้ได้ตลอดเวลา

⑥ ผู้ใช้สามารถขอตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดในข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่ “ห้างสรรพสินค้า” เป็นผู้ถือครอง
ได้ตลอดเวลา และ “ห้างสรรพสินค้า” มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามโดยทันที หากผู้ใช้ร้องขอให้มีการแก้ไขข้อผิดพลาด
“ห้างสรรพสินค้า” จะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในทางใดๆ จนกว่าข้อผิดพลาดจะได้รับการแก้ไข

⑦ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล “ห้างสรรพสินค้า” จะต้องมีมาตรการจำกัดจำนวนผู้ที่สามารถจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันการสูญหาย, การโจรกรรม, การรั่วไหล, การจัดหาให้กับบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการสูญหาย, การโจรกรรม, การรั่วไหล ของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้รวมถึงข้อมูลบัตรเครดิตและบัญชีธนาคาร เพื่อเป็นการรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อความเสียหายใด ๆ ที่ได้รับจากผู้ใช้เนื่องจากการปลอมแปลง ฯลฯ

⑧ “ห้างสรรพสินค้า” หรือบุคคลที่สามที่ได้รับหรือจัดการข้อมูลส่วนบุคคล จะทำการกำจัดหรือทำลาย
ข้อมูลส่วนบุคคลโดยทันที เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการรวบรวมหรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

⑨ “ห้างสรรพสินค้า” ไม่ได้ทำเครื่องหมายในช่องยินยอมล่วงหน้าเกี่ยวกับการรวบรวม การใช้ และการให้ข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ ยังระบุถึงบริการที่ถูกจำกัดไว้เป็นพิเศษเ มื่อผู้ใช้ปฏิเสธให้ความยินยอมในการรวบรวม การใช้ และการให้ข้อมูลส่วนบุคคล และบริการต่างๆ เช่น ไม่สามารถทำการสมัครสมาชิกได้ เนื่องจากการที่ผู้ใช้ปฏิเสธที่จะให้การยินยอมในการรวบรวม การใช้ และการให้ข้อมูลส่วนบุคคล ในส่วนที่ไม่จำเป็นต้องรวบรวม จะไม่ถูกจำกัด หรือปฏิเสธข้อเสนอ


ข้อ 18 (หน้าที่ของ “ห้างสรรพสินค้า”)






① “ห้างสรรพสินค้า” ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำใดๆ ที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายและข้อกำหนดเงื่อนไขต่างๆ หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และดำเนินการตามบทบัญญัติของข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้
เราจะพยายามอย่างเต็มที่ในการจัดหาสินค้าและบริการที่มั่นคงและมีคุณภาพ

② “ห้างสรรพสินค้า” จะต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้
(รวมถึงข้อมูลทางการเงิน) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย

③ หาก “ห้างสรรพสินค้า” สร้างหรือก่อเกิดความเสียหายให้กับผู้ใช้ อันเนื่องมาจากการติดฉลากและการโฆษณาที่ไม่เป็นธรรมตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 3 ของ 「พระราชบัญญัติว่าด้วยการติดฉลากและการโฆษณาอย่างยุติธรรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ」 “ห้างสรรพสินค้า” จะต้องรับผิดชอบในการชดเชยความเสียหาย

④ “ห้างสรรพสินค้า” จะไม่ส่งอีเมลโฆษณาเชิงพาณิชย์ไปยังผู้ใช้ ในกรณีที่ผู้ใช้ไม่ต้องการรับข้อมูล


ข้อ 19 (หน้าที่เกี่ยวกับรหัสสมาชิกและรหัสผ่าน)

① ยกเว้นในกรณีของข้อ 17 สมาชิกผู้ใช้มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการ ID และรหัสผ่านของตน

② สมาชิกผู้ใช้จะต้องไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นหรือบุคคลที่สามใช้ ID และรหัสผ่านของตน

③ หากสมาชิกผู้ใช้ทราบว่า ID และรหัสผ่านของตนถูกขโมยหรือถูกใช้โดยบุคคลที่สามที่ไม่ได้รับอนุญาต จะต้องทำการแจ้ง “ห้างสรรพสินค้า” ทันที และปฏิบัติตามคำแนะนำ ของทาง “ห้างสรรพสินค้า”


ข้อ 20 (หน้าที่ของผู้ใช้) ผู้ใช้จะต้องไม่กระทำการดังต่อไปนี้

1. การลงทะเบียนข้อมูลอันเป็นเท็จเมื่อสมัครสมาชิกหรือเปลี่ยนแปลง
2. การขโมยหรือนำข้อมูลของผู้อื่นมาใช้
3. การเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่โพสต์บน “ห้างสรรพสินค้า”
4. การส่งหรือโพสต์ข้อมูล (โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฯลฯ) นอกเหนือจากที่ “ห้างสรรพสินค้า” กำหนด
5. การละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา เช่น ลิขสิทธิ์ ของ “ห้างสรรพสินค้า” บุคคลที่สามหรือบุคคลอื่น
6. การกระทำใดๆ ที่สร้างความเสียหายเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของ “ห้างสรรพสินค้า” หรือกระทำการแทรกแซงธุรกิจบุคคลที่สามหรือบุคคลอื่น
7. การเปิดเผยหรือโพสต์ข้อความ, วิดีโอ, เสียง หรือข้อมูลอื่นที่หยาบคายหรือรุนแรงบนห้างสรรพสินค้า ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน


มาตรา 21 (ความสัมพันธ์ระหว่างการเชื่อมต่อ “ห้างสรรพสินค้า” และ “ห้างสรรพสินค้า” ที่เชื่อมต่อแล้ว)

① “ห้างสรรพสินค้า” ด้านบนและ “ห้างสรรพสินค้า” ด้านล่างเชื่อมต่อกันแล้วด้วยไฮเปอร์ลิงก์
(ตัวอย่าง: ไฮเปอร์ลิงก์เชื่อมโยงที่ประกอบด้วยข้อความ, รูปภาพ รวมถึงวิดีโอ ฯลฯ)หากเชื่อมต่อด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง
เดิมเรียกว่าการเชื่อมต่อ “ห้างสรรพสินค้า” (เว็บไซต์) หลังนี้เรียกว่า "ห้างสรรพสินค้า" ที่เชื่อมต่อแล้ว (เว็บไซต์)


② “ห้างสรรพสินค้า” ที่เชื่อมต่อแล้วมีหน้าที่รับผิดชอบในการทำธุรกรรมที่ดำเนินการกับผู้ใช้ผ่านสินค้าและบริการ จัดทำโดย “ห้างสรรพสินค้า” ที่เชื่อมต่อโดยอิสระ หากมีการระบุไว้บนหน้าจอเริ่มต้นของ "ห้างสรรพสินค้า" ที่เชื่อมต่อ หรือแสดงในหน้าจอป๊อปอัปขณะที่เชื่อมต่อว่าบริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อการทำธุรกรรมใดๆ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อธุรกรรมดังกล่าว


ข้อ 22 (การระบุแหล่งที่มาของลิขสิทธิ์และข้อจำกัดในการใช้งาน)

① ลิขสิทธิ์แลทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ สำหรับงานที่สร้างโดย "ห้างสรรพสินค้า" เป็นของ "ห้างสรรพสินค้า"

② ผู้ใช้บุคคลที่สามรวมถึงบุคคลอื่นๆ ไม่สามารถนำข้อมูลที่ได้รับจาก "ห้างสรรพสินค้า" ซึ่งสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นของ "ห้างสรรพสินค้า" เพื่อนำไปใช้งานในวัตถุประสงค์ทางการค้าโดยการคัดลอก, ส่งต่อ, เผยแพร่, แจกจ่าย, ออกอากาศหรือวิธีการอื่นๆ โดยไม่ได้รับการยินยอมหรืออนุญาตจาก "ห้างสรรพสินค้า" ก่อน

③ หาก “ห้า
TOP

สินค้าที่ดูล่าสุด

ไม่มีสินค้าที่ดูล่าสุด

ดูทั้งหมด

เปลี่ยนรหัสผ่าน

เราขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นระยะๆ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอันมีค่าของคุณ.

※ รหัสผ่านต้องมีความยาวระหว่าง 8 ถึง 20 ตัวอักษร โดยมีตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ ตัวอักษรพิมพ์เล็ก ตัวเลข และอักขระพิเศษรวมกันอย่างน้อย 2 ตัว

  • รหัสผ่านปัจจุบัน
  • รหัสผ่านใหม่
  • รหัสผ่านใหม่ ยืนยัน